Shipping APIs: มันคืออะไรและคุณจะใช้มันอย่างไร

เมื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้น ความซับซ้อนของการดำเนินงานก็เช่นกัน

การเพิ่มจำนวนการจัดส่งจาก 20 รายการต่อวันเป็น 200 รายการต่อวันต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเทคโนโลยีเพิ่มเติม แต่ในไม่ช้า คุณจะพบว่าการตีกลับจากโซลูชันเทคโนโลยีหนึ่งไปอีกโซลูชันหนึ่งเพื่อจัดการการจัดส่งก็สามารถทำได้อย่างล้นหลามเช่นกัน

นั่นคือสิ่งที่ API การจัดส่งเข้ามา

Shipping API ช่วยให้ธุรกิจได้รับประโยชน์ทั้งหมดจากซอฟต์แวร์การจัดส่งในสแต็คเทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซที่มีอยู่ ในโลกอีคอมเมิร์ซปัจจุบัน การตอบสนองความต้องการของลูกค้าหมายถึงการมีประสิทธิภาพมากที่สุดและมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ราบรื่น

การรวมความสามารถในการจัดส่งทั้งหมดของคุณเข้ากับสแต็คเทคโนโลยีปัจจุบันของคุณช่วยให้ทีมของคุณได้รับข้อมูลเร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้พวกเขามอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เพื่อแสดงให้เห็นเพิ่มเติมถึงผลกระทบของโซลูชันนี้ และวิธีที่คุณสามารถใช้เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณ เราจะแจกแจงทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ API การจัดส่ง

API การจัดส่งคืออะไร

เพื่อให้เข้าใจว่า API การจัดส่งคืออะไร ก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่า Application Program Interface (API) เป็นโค้ดที่ช่วยให้เว็บแอปพลิเคชันหลายตัวสามารถสื่อสารและส่งข้อมูลระหว่างกันได้

API การจัดส่งคือโค้ดที่คุณสามารถผสานรวมและปรับแต่งในสแต็คเทคโนโลยีปัจจุบันของคุณ เพื่อให้สามารถสื่อสารและเข้าถึงความสามารถในการจัดส่งผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ ซึ่งอาจรวมถึงคุณ:

• เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
• ระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS)
• ระบบจัดการคำสั่งซื้อ (OMS)
• และอื่น ๆ

ตัวอย่างเช่น สมมติว่ามีผู้สั่งซื้อบนเว็บไซต์ของคุณ แทนที่จะต้องใช้แอปพลิเคชันแยกต่างหากเพื่อเปรียบเทียบอัตราค่าจัดส่งและฉลากพิมพ์ คุณสามารถรับฟังก์ชันดังกล่าวได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของคุณ เนื่องจาก API การจัดส่งกำลังรวบรวมข้อมูลและฟังก์ชันการทำงานจากแพลตฟอร์มเดียว และแสดงข้อมูลและความสามารถที่จำเป็นสำหรับคุณใน แพลตฟอร์มปัจจุบัน

เหตุใด API การจัดส่งจึงมีความสำคัญสำหรับอีคอมเมิร์ซ

มีเหตุผลมากมายว่าทำไม API การจัดส่งจึงมีความสำคัญสำหรับอีคอมเมิร์ซ และมีความสำคัญมากขึ้นกับแนวโน้มการช็อปปิ้งออนไลน์ในปัจจุบันเท่านั้น

ในการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้ซื้อออนไลน์ 68% อ้างว่าการจัดส่งที่รวดเร็วจะเพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะวางคำสั่งซื้อ

แม้ว่าการบรรลุความคาดหวังของลูกค้าเช่นนี้อาจเป็นเรื่องยาก แต่ก็เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งด้วยกระบวนการที่ต้องทำด้วยตนเองมากเกินไป

Shipping API สามารถช่วยขจัดเวลาที่ต้องใช้ในการถ่ายโอนข้อมูลจากแอปพลิเคชันหนึ่งไปยังอีกแอปพลิเคชันหนึ่ง ลดข้อผิดพลาดของมนุษย์ในกระบวนการ และลดค่าใช้จ่ายในการจัดส่งหากใช้ API ที่ถูกต้อง

ติดตามคำสั่งซื้อ

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุด อาจมีคำสั่งซื้อจำนวนมากล้นหลาม

ด้วยกระบวนการที่ดำเนินการด้วยตนเองอย่างง่าย คุณอาจผิดพลาดในการชำระค่าใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่งหลายใบสำหรับคำสั่งซื้อเดียวกัน หรือสูญเสียการติดตามคำสั่งซื้อบางรายการบนแพลตฟอร์ม 3PL ของคุณในขณะที่กำลังดำเนินการตามกระบวนการปฏิบัติตาม

ด้วย API การจัดส่ง คำสั่งซื้อบนเว็บไซต์ของคุณจะซิงค์กับแพลตฟอร์ม 3PL ของ Fulfillment Center ซึ่งซิงค์กับซอฟต์แวร์การจัดส่งที่สร้างป้ายกำกับด้วย

ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถดูและติดตามได้ว่าคำสั่งซื้อของคุณอยู่ที่ใดในระหว่างกระบวนการจัดการคำสั่งซื้อทั้งหมดโดยไม่ตีกลับระหว่างแอปพลิเคชันจำนวนมากเกินไป

ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยผู้ที่จัดการสินค้าคงคลังเท่านั้น แต่ยังช่วยทีมสนับสนุนลูกค้าของคุณในการตอบคำถามใดๆ เกี่ยวกับสถานะคำสั่งซื้อของลูกค้าของคุณ

เพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่ง

ประโยชน์สูงสุดอย่างหนึ่งของการใช้ API การจัดส่งคือความสามารถในการสร้างกระบวนการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับธุรกิจของคุณ

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณกำลังใช้บริษัท 3PL เช่น ShipBob เพื่อจัดการส่วนเติมเต็มของกระบวนการจัดส่งของคุณ ผ่าน API การจัดส่ง ข้อมูลต่างๆ เช่น รายการสินค้าที่ศูนย์ปฏิบัติตามของพวกเขาจำเป็นต้องจัดแพคเกจ ตัวเลือกของผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสมในการจัดส่ง และข้อมูลเฉพาะอื่นๆ เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์จะได้รับการสื่อสารไปยังทีมของพวกเขาโดยอัตโนมัติ

ซึ่งหมายความว่าความสับสนน้อยลงและเสียเวลาน้อยลงในการไปและกลับในคำสั่งซื้อบางรายการ ส่งผลให้ดำเนินการตามคำสั่งซื้อและจัดส่งได้เร็วขึ้น

การจัดส่งที่ปลอดภัย

แม้ในสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบ ไม่มีธุรกิจใดที่ปราศจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่อาจเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ด้วยการผสานรวม API การจัดส่ง คุณวางใจได้ว่าปัญหาด้านซัพพลายเชนจะไม่ได้เกิดจากใครก็ตามที่แฮ็กเข้าสู่กลุ่มเทคโนโลยีของคุณ

API ช่วยรักษาข้อมูลการจัดส่งของคุณให้ปลอดภัย และไม่มีการสะดุดใดๆ ในการส่งข้อมูลนั้นไปยังซอฟต์แวร์การปฏิบัติตามข้อกำหนดอื่นๆ หรือพันธมิตรของคุณ

ค่าขนส่งที่อาจลดลง

คุณสามารถประหยัดเงินค่าขนส่งได้จริง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ API การจัดส่งที่คุณวางแผนจะใช้

ตัวอย่างเช่น เมื่อรวม Shippo เข้ากับสแต็คเทคโนโลยีปัจจุบัน คุณจะสามารถเข้าถึงส่วนลดที่ต่อรองไว้ล่วงหน้าสำหรับป้ายกำกับการจัดส่งจากผู้ให้บริการชั้นนำของประเทศ ซึ่งรวมถึงส่วนลดสูงสุดถึง 90% สำหรับฉลาก USPS บางรายการ และส่วนลดสูงสุด 86% สำหรับฉลากการจัดส่งระหว่างประเทศจาก UPS

เมื่อเวลาผ่านไป อัตราส่วนลดเหล่านี้สามารถเพิ่มและเพิ่มอัตรากำไรโดยรวมของคุณในแต่ละคำสั่งซื้อได้ เนื่องจาก Shippo API ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการหลายรายและมีความสามารถในการทำงานอัตโนมัติ คุณจึงตั้งค่า API ได้เสมอเพื่อเลือกอัตราต่ำสุดสำหรับคำสั่งซื้อเฉพาะ

API การจัดส่งทั่วไป 3 รายการ

สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่ผู้ค้าอีคอมเมิร์ซควรทราบก็คือ API ทั้งหมดไม่เหมือนกัน

API ที่แตกต่างกันมีความสามารถที่แตกต่างกันและให้บริการธุรกิจในรูปแบบต่างๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง API การจัดส่งทั่วไป 3 รายการที่คุณต้องจำไว้ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มีผลดีต่อทั้งธุรกิจและลูกค้าของคุณ

1. การตรวจสอบที่อยู่

ลูกค้าของคุณเป็นมนุษย์ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถทำผิดพลาดได้ ซึ่งรวมถึงโอกาสที่พวกเขาพิมพ์ผิดในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณเมื่อกรอกที่อยู่ อย่างไรก็ตาม ข้อผิดพลาดนี้มีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับคุณหากคุณไม่ได้ติดตั้งเครื่องมือที่เหมาะสม

ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไม่ได้มาแค่ในรูปแบบของการพิมพ์ฉลากการจัดส่งใหม่เท่านั้น นอกจากนี้ยังอยู่ในรูปแบบของแรงงานเพื่อเติมเต็มผลิตภัณฑ์อื่น การจัดการการส่งคืน และประสบการณ์ของลูกค้าที่แย่ลงหมายถึงโอกาสที่จะสูญเสียรายได้ในอนาคตจากลูกค้ารายนั้น

ด้วย API การจัดส่งของ Shippo การตรวจสอบที่อยู่จะมาพร้อมกับการรวมร้านค้าอีคอมเมิร์ซของคุณ สิ่งนี้หมายความว่าเมื่อลูกค้าพิมพ์ที่อยู่ของตนในขณะที่พวกเขากำลังชำระเงิน Shippo API จะทำงานโดยอัตโนมัติในเบื้องหลังและอ้างอิงโยงที่อยู่นั้นกับฐานข้อมูล USPS เพื่อยืนยันว่าที่อยู่นั้นเป็นที่อยู่ที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ยังช่วยแยกความแตกต่างระหว่างที่อยู่อาศัยและที่อยู่เชิงพาณิชย์ ซึ่งอาจส่งผลต่อตัวเลือกการจัดส่งของลูกค้าของคุณ และ/หรือตัวเลือกการจัดส่งที่คุณยินดีเสนอในท้ายที่สุด

ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาดของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดเงินในธุรกิจของคุณ และมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า

รองรับหลายผู้ให้บริการ

คุณเคยได้ยินวลีที่ว่า “อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว” เช่นเดียวกับการส่งพัสดุภัณฑ์ทั้งหมดของคุณกับผู้ให้บริการรายเดียว

ผู้ให้บริการขนส่งแต่ละรายจะคำนวณค่าขนส่งแตกต่างกันไปตามขนาด น้ำหนัก ระยะทางที่บรรจุภัณฑ์ของคุณถูกจัดส่ง และเวลาที่คุณต้องการให้ไปถึงที่นั่น ด้วยเหตุนี้ ผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสมที่สุดที่จะจัดส่งด้วยสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณกำลังส่ง ที่ที่คุณส่งไป และระยะเวลาที่ลูกค้ายินดีที่จะรอ

การใช้ API การจัดส่งพร้อมการรองรับหลายผู้ให้บริการทำให้คุณสามารถเปรียบเทียบอัตราค่าจัดส่งจากผู้ให้บริการขนส่งหลายรายในแพลตฟอร์มเดียวกันได้

คุณยังสามารถทำให้กระบวนการเป็นอัตโนมัติเพื่อให้เลือกตัวเลือกการจัดส่งที่มีต้นทุนต่ำที่สุดสำหรับคำสั่งซื้อหนึ่งๆ เสมอ หรือเลือกตัวเลือกการจัดส่งที่เร็วที่สุดสำหรับคำสั่งซื้ออื่นเสมอ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาธุรกิจของคุณและช่วยเร่งกระบวนการปฏิบัติตามข้อกำหนด

API การจัดส่งยังสามารถดึงอัตราจริงจากผู้ให้บริการขนส่งต่างๆ และนำเสนอให้กับลูกค้าของคุณ ซึ่งช่วยให้พวกเขาตัดสินใจเลือกทางเลือกในการจัดส่งที่หลากหลาย

ติดตามการจัดส่ง

ลองนึกถึงครั้งสุดท้ายที่คุณสั่งซื้อบางอย่างทางออนไลน์ เป็นไปได้มากที่คุณจะลองตรวจสอบสถานะการจัดส่งของคุณในระหว่างการขนส่ง อันที่จริง นักช็อปออนไลน์ตรวจสอบหน้าติดตามคำสั่งซื้อ 3.5 ครั้งต่อคำสั่งซื้อ

การติดตามการจัดส่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าอีคอมเมิร์ซคาดหวัง หากไม่ระบุไว้ อาจทำให้กล่องจดหมายของทีมบริการลูกค้าล้นหลามอย่างรวดเร็ว

การมี API การจัดส่งพร้อมการแจ้งเตือนการติดตามช่วยให้ธุรกิจของคุณรักษาจุดติดต่อเหล่านั้นโดยอัตโนมัติตลอดเส้นทางของผลิตภัณฑ์ และช่วยเสริมประสบการณ์หลังการซื้อของลูกค้า

ด้วยความยืดหยุ่นของ API การจัดส่ง จึงสามารถผสานรวมกับเครื่องมือเข้าถึงลูกค้าปัจจุบันของคุณ เพื่อให้คุณและลูกค้าของคุณสามารถรับรู้ได้โดยไม่ต้องตอบคำถามใดๆ

API การจัดส่งทำงานอย่างไร

API การจัดส่งอยู่ในพื้นหลังของแอปพลิเคชันใดก็ตามที่ผสานรวมกับ โดยจะดึงข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ภายนอก แปล จากนั้นแสดงข้อมูลนั้นลงในแพลตฟอร์มที่คุณใช้

คุณมักจะได้ยินคำว่า REST API เมื่อมองหาโซลูชันการจัดส่ง API เนื่องจากเป็นวิธีการ API ที่ใช้กันทั่วไปมากที่สุด ด้วยวิธีนี้ ไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณจะขอข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ภายนอก เมื่อ API ได้รับคำตอบแล้ว API จะตอบกลับด้วยข้อมูลนั้นภายในเว็บไซต์ของคุณ

คิดในแง่นี้ คุณอยู่ต่างประเทศและกำลังพยายามขอให้ใครบางคนทำอะไรให้คุณ แต่คุณไม่ได้พูดภาษาของเขา คุณต้องทำการร้องขอจากนักแปลของคุณ

นักแปลจะรวบรวมข้อมูลจากบุคคลนั้น แล้วพวกเขาจะตอบกลับคุณด้วยภาษาแม่ของคุณ โดยพื้นฐานแล้ว API จะเป็นผู้แปลในสถานการณ์นี้

API การจัดส่งยังมาพร้อมกับเอกสารที่ช่วยให้นักพัฒนาในทีมของคุณเข้าใจวิธีผสานรวม API และรับคุณค่าอย่างเต็มที่ เอกสารจะอธิบาย:

• API โต้ตอบกับแอปพลิเคชันอื่นอย่างไร
• วิธีการขอและเรียกข้อมูล
• สามารถขอได้บ่อยแค่ไหน
• และข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ

คุณจะเลือก API การจัดส่งอย่างไร

มีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อการเลือก API การจัดส่งที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ ปัจจัยทั่วไปบางประการ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการผสานรวมและต้นทุนการจัดส่งเมื่อใช้ API

อีกปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงคือจำนวนการเชื่อมต่อของผู้ให้บริการขนส่งที่ API การจัดส่งมี ยิ่งมีการเชื่อมต่อหรือมีความสามารถมากขึ้น นั่นหมายถึงตัวเลือกที่มากขึ้นและการกำหนดราคาที่ดีขึ้นสำหรับคุณและลูกค้าของคุณเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องชำระเงิน

ปัจจัยทางเทคนิคเพิ่มเติมที่ต้องพิจารณารวมถึงความเร็วที่ API ทำงาน คำขอ API ใดๆ ที่ใช้เวลานานกว่าครึ่งวินาทีกว่าจะได้ผลลัพธ์กลับมา จะแสดงเป็นประสบการณ์การใช้งานที่ช้าสำหรับลูกค้าของคุณ

ในหัวข้อของความเร็ว คุณจะต้องคำนึงถึงระยะเวลาของกระบวนการผสานรวม และประเภทของเอกสารที่ให้มาเพื่อช่วยให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น

นอกจากนี้ คุณยังต้องการมองหาความสามารถของแซนด์บ็อกซ์ซึ่งช่วยให้คุณทดสอบ API ได้โดยไม่ต้องทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับคำสั่งซื้อที่มีอยู่

การผสานรวม API การจัดส่งที่ดีที่สุด

เมื่อมองหา API การจัดส่งที่ดีที่สุด คุณจะมีตัวเลือกมากมายล้นเหลืออย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยที่เราได้อธิบายไว้ข้างต้นเกี่ยวกับวิธีเลือก API การจัดส่ง คุณมักจะพบกับตัวเลือกเหล่านี้ตามผู้ให้บริการจัดส่ง:

UPS API

UPS API เป็นหนึ่งใน API ที่ง่ายที่สุดในการรวมเข้ากับเว็บไซต์ของคุณ API มีสามประเภทที่ใช้ภาษามาร์กอัปแบบขยายได้ (XML) ซึ่งเป็นภาษาทั่วไปที่เพียงพอที่นักพัฒนาในทีมงานของคุณจะทราบวิธีจัดการกับมัน API นั้นได้รับการจัดทำเป็นเอกสารอย่างดีซึ่งควรช่วยในการรวมระบบ

เฟดเอ็กซ์ API

FedEx API ยังเป็นมิตรกับผู้ใช้สำหรับนักพัฒนา เนื่องจากจัดทำเป็น REST API ใช้ OAuth 2.0 สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์และ JSON สำหรับจัดการคำขอและการตอบกลับ Rest API เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ใช้บ่อยที่สุด ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ทำงานใน API อื่นๆ

DHL API

DHL API ยังมีให้ในรูปแบบ REST API และรองรับ OAuth 2.0 รวมถึง JSON สำหรับฟังก์ชันเดียวกันกับ FedEx API นอกจากนี้ยังสนับสนุน XML ในการสร้างตัวเลือกที่ยืดหยุ่นสำหรับการตั้งค่าการผสานรวมเหล่านั้น

USPS API

USPS API รวมเสียงระฆังและเสียงนกหวีดทั้งหมดเช่น FedEx และ DHL อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดคือการขาดทรัพยากร ทำให้การตั้งค่ายากขึ้นเล็กน้อย แต่อัตราค่าจัดส่งมักจะดีกว่าสำหรับการจัดส่งภายในประเทศที่มีขนาดเล็กกว่า

Shippo API

อย่างไรก็ตาม API การจัดส่งที่ดีที่สุดนั้นมาในรูปแบบของ Shippo API

ในฐานะที่เป็นซอฟต์แวร์การจัดส่งแบบหลายผู้ให้บริการโดยธรรมชาติ Shippo's API ช่วยให้คุณเข้าถึงเพื่อเปรียบเทียบอัตราระหว่างผู้ให้บริการเหล่านี้รวมถึงผู้ให้บริการระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศอื่น ๆ

คุณยังจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงอัตราค่าขนส่งที่มีส่วนลดจากผู้ให้บริการหลายราย เงินออมเหล่านั้นสามารถส่งต่อไปยังลูกค้าของคุณในรูปแบบของค่าธรรมเนียมการจัดส่งที่ต่ำลง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมยอดขายที่เพิ่มขึ้น

ประโยชน์อื่นๆ ที่ทำให้เป็น API การจัดส่งที่ดีที่สุด ได้แก่ เวลาทำงาน 99.99% ดังนั้นธุรกิจของคุณจึงแทบจะไม่ถูกขัดจังหวะจากการหยุดทำงาน

คุณจะมีเอกสารประกอบมากมายที่จะช่วยผสานรวม API เข้ากับแพลตฟอร์มของคุณ รวมถึงตัวแทนฝ่ายสนับสนุนลูกค้าโดยเฉพาะ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากประสบการณ์ API การจัดส่งของคุณ

บทสรุป

Shipping APIs ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยรวมศูนย์ซอฟต์แวร์การจัดส่งและรวมเข้ากับเทคโนโลยีที่มีอยู่ของคุณ API ของ Shippo ผสานรวมกับโซลูชันอีคอมเมิร์ซชั้นนำ รวมถึง ShipBob ผู้ให้บริการเติมเต็มช่องทาง Omni

ด้วยการผสานรวมนี้ คุณสามารถใช้ประโยชน์จากอัตราค่าจัดส่งที่มีส่วนลดและความสามารถในการขายในช่องทางเดียวหรือหลายช่องทาง เพื่อให้คุณสามารถจัดการการจัดส่งจากแพลตฟอร์มเดียวได้อย่างง่ายดาย

คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการรวม Shippo และ ShipBob ได้ที่นี่

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Shipping API

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามยอดนิยมเกี่ยวกับโซลูชัน API การจัดส่ง

API การจัดส่งคืออะไร

API การจัดส่งเป็นรหัสประเภทเฉพาะที่รวมเข้ากับเทคโนโลยีปัจจุบันของคุณ เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์ทั้งหมดจากซอฟต์แวร์การจัดส่งโดยไม่ต้องออกจากแอปพลิเคชันปัจจุบันของคุณหรือถ่ายโอนข้อมูลด้วยตนเอง

API และ EDI ต่างกันอย่างไร

มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการระหว่าง EDI และ API ข้อแตกต่างประการแรกคือ EDI มีมานานกว่า 50 ปีแล้ว ในขณะที่ API มีมาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 2000 เท่านั้น

ที่สำคัญกว่านั้น วิธีการทำงานของ EDI คือการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก จากนั้นจึงถูกส่งไปยังแอปพลิเคชันอื่นทั้งหมดในคราวเดียว ในทางกลับกัน APIs จะแปลข้อมูลระหว่างสองแอปพลิเคชันในแบบเรียลไทม์

การแยกและการรวมข้อมูลกับ API นั้นเป็นกระบวนการที่เร็วกว่ามาก อย่างไรก็ตาม API นั้นถูกยึดตามมาตรฐานกฎระเบียบที่ต่างออกไป นี่คือเหตุผลที่บางคนรู้สึกว่า EDI เหมาะสมกว่าสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลที่ทันเวลาน้อยกว่าและเป็นความลับมากกว่า ในขณะที่ API ถูกใช้มากกว่าเพื่อทำให้กระบวนการต่างๆ เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นระหว่างหลายแอปพลิเคชัน