Shopify รีวิว: Shopify มงกุฎเพชรแห่งโลกอีคอมเมิร์ซหรือไม่ [มิถุนายน 2522]

บทนำ

Shopify มีความเจริญรุ่งเรืองนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2547 โดยให้บริการเว็บไซต์ที่ใช้งานจริงมากกว่า 3 ล้านครึ่ง ณ เดือนธันวาคม 2564 Shopify มอบฟังก์ชันการทำงานที่ไม่มีใครเทียบให้ผู้ใช้ในขณะที่ยังคงรักษาประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่นและเป็นมิตร ด้วยเหตุผลดังกล่าว เราได้ทำการวิจัยอย่างละเอียดและเขียนรีวิว Shopify นี้เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกแก่คุณเกี่ยวกับสิ่งที่ Shopify นำเสนอ

บทวิจารณ์ Shopify ของเราจะครอบคลุม:

• แนะนำสั้น ๆ ของ Shopify
• การอัปเดตที่ยอดเยี่ยมบน Shopify ในปี 2564-2565
• ข้อมูลที่สำคัญที่สุดของ Shopify (ฟังก์ชัน การใช้งานง่าย ราคา)
• คุณควรพิจารณาอะไรเมื่อเลือก Shopify

รู้สึกตื่นเต้น? เข้าสู่รีวิว Shopify ของเรากันเถอะ!

---

Shopify คืออะไรและ Shopify คุ้มค่าหรือไม่

หากคุณเบื่อที่จะอ่านข้อความเหล่านี้ ให้ตรวจสอบภาพรีวิว Shopify ด้านล่างเพื่อดูข้อดีและข้อเสียของ Shopify!

Shopify เป็น โซลูชันอีคอมเมิร์ซแบบ SaaS (ซอฟต์แวร์เป็นบริการ) ซึ่งหมายความว่ามีทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อสร้างเว็บไซต์ แทนที่จะต้องโฮสต์ตัวเองและจัดการกับเรื่องทางเทคนิค คุณเพียงแค่ไปที่เว็บไซต์หลัก สร้างบัญชี และนั่นคือทั้งหมด คุณสามารถเปิดร้านค้า Shopify ของคุณได้โดยไม่มีความพลุกพล่านวุ่นวาย

เมื่ออ่านบทความนี้ คุณสามารถตอบคำถามว่า "Shopify คุ้มค่าหรือไม่" โดยตัวคุณเอง. จากนั้น คุณจะมีโอกาสยืนยันความคิดและข้อพิจารณาของคุณอีกครั้งโดยเข้าร่วมกิจกรรม “ eCommerce Platform ProFitting ” สัมผัสประสบการณ์จริงกับ Shopify โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

Shopify เสนอการ ทดลองใช้ฟรี 14 วัน และคุณสามารถทดลองใช้แพลตฟอร์มนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องป้อนข้อมูลบัตรเครดิต เมื่อคุณตัดสินใจเลือกใช้แผน Shopify จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือนจากคุณ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแผนของคุณ

ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะใหญ่แค่ไหน Shopify ก็เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณาเสมอ ความสามารถในการปรับขนาดเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยสร้างความไว้วางใจและชื่อเสียงให้กับผู้ใช้ ด้วยจำนวนแอดออนและฟังก์ชันที่ผสานรวมกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจึงรับประกันความพึงพอใจสูงสุดแม้ในร้านค้าขนาดใหญ่

หากต้องการเปรียบเทียบ Shopify กับผู้สร้างเว็บรายอื่นๆ ดูบทวิจารณ์เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ดีที่สุดที่นี่

---

การอัปเดตที่เหนือชั้นบน Shopify เพื่อการเติบโตในปี 2022

Shopify ได้อัปเดตฟังก์ชันการทำงานอย่างต่อเนื่อง นี่คือคุณสมบัติใหม่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดบางส่วนที่เราอยากแบ่งปันกับคุณ การอัปเดตเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจว่า Shopify คุ้มค่าหรือไม่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่บันทึกการเปลี่ยนแปลงของ Shopify

#1 เพิ่มความเร็วในการจัดส่งที่การชำระเงินของลูกค้า

ฟังก์ชันอัปเดตใหม่ช่วยให้ลูกค้าของคุณสามารถติดตามสถานะการจัดส่งได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เป็นผลให้คุณสามารถได้รับความไว้วางใจมากขึ้นจากผู้ซื้อรวมทั้งให้ความสะดวกแก่พวกเขา นอกจากนี้ยังนำความชัดเจนและความโปร่งใสมาสู่ร้านค้าของคุณ

ผู้ซื้อจะเห็นช่วงวันที่ชำระเงินซึ่งสะท้อนถึงเวลาขนส่งโดยประมาณของการซื้อ ดังนั้น คุณสามารถช่วยให้ลูกค้าของคุณตื่นตัวต่อกระบวนการจัดส่งได้ตลอดเวลา

#2 รวมภาษีเฉพาะประเทศในราคาผลิตภัณฑ์

หากคุณขายในต่างประเทศ คุณควรคุ้นเคยกับการเพิ่มภาษีการขายให้กับราคาของคุณ ด้วยการอัปเดตใหม่ Shopify จะคำนวณและรวมภาษีโดยอัตโนมัติตามประเทศของลูกค้า

โปรดทราบว่าจะมีการเพิ่มภาษีตามประเทศในหน้าชำระเงินเท่านั้น ดังนั้นราคาในหน้าผลิตภัณฑ์หรือรถเข็นจึงยังคงเหมือนเดิม

#3 ดูกิจกรรมร้านค้าแบบเรียลไทม์ของคุณด้วย Live View

Live View Shopify มีแผนที่โลกที่แสดงกิจกรรมทั้งหมดที่ปรากฏในร้านค้าของคุณแบบเรียลไทม์และตำแหน่งของผู้เข้าชมและลูกค้าเพื่อให้คุณสามารถติดตาม e-store ของคุณได้อย่างง่ายดาย

Live View จะจับภาพและแสดงภาพพฤติกรรมของลูกค้าของคุณโดยอัตโนมัติ (ภายใน 10 นาที) ตลอดกระบวนการชำระเงิน

ฟังก์ชันนี้มีประโยชน์มากในช่วงเวลาที่มีการเข้าชมร้านค้าสูง เช่น Black Friday, Cyber ​​Monday, Christmas...เมื่อคุณต้องการรับภาพรวมของกิจกรรมทางการตลาดล่าสุด ส่วนลด หรือโปรโมชั่นอื่นๆ

#4 ปฏิบัติตามคำสั่งซื้ออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในแอป Shopify มือถือด้วยฟังก์ชันใหม่

สิ่งนี้ทำให้ผู้ค้ามีการดำเนินการแบบกลุ่มจำนวนมากสำหรับงานสั่งซื้อและการจัดการสินค้า เพื่อให้คุณสามารถเร่งกระบวนการจัดการคำสั่งซื้อและนำสินค้าไปยังลูกค้าได้เร็วขึ้น

• ทำเครื่องหมายว่าจัดส่งแล้ว: ตั้งค่าสถานะคำสั่งซื้อของคุณว่าเสร็จสิ้นแล้ว
• จับการชำระเงิน: ตั้งค่าสถานะการสั่งซื้อเมื่อคุณชำระเงินเสร็จแล้ว
• เก็บถาวรผลิตภัณฑ์: สถานะนี้จะติดตามคำสั่งซื้อที่ยังเปิดอยู่ซึ่งยังไม่เสร็จสมบูรณ์
• ยกเลิกการเก็บผลิตภัณฑ์: ทำเครื่องหมายคำสั่งซื้อของคุณเป็นสินค้าที่ยกเลิกการเก็บถาวร หากคุณต้องการลบในภายหลัง
• สร้างใบจ่าหน้าสำหรับการจัดส่ง (ใช้ได้ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลียเท่านั้น): ใบ จ่าหน้าสำหรับการจัดส่งจะแสดงข้อมูลที่ผู้ขนส่งใช้เพื่อให้แน่ใจว่าการจัดส่งถูกจัดส่งอย่างถูกต้อง
• จัดการการคืนสินค้าโดยตรงใน Shopify: ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากระบวนการคืนสินค้าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการดูแลลูกค้า แอตทริบิวต์ใหม่นี้ช่วยให้คุณจัดการการคืนเงินจากหน้าคำสั่งซื้อของ Shopify

#5 Facebook Pay สำหรับ Shopify Payments & Checkout

Facebook Pay ช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระเงินด้วยข้อมูลประจำตัวที่บันทึกไว้เมื่อลูกค้าเข้าสู่ระบบ Facebook

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Facebook Pay มีให้บริการเฉพาะร้านค้าออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาที่ใช้ Shopify Payments เท่านั้น หากต้องการใช้ Facebook Pay สำหรับการซื้อ ลูกค้าของคุณต้องอยู่ในสหรัฐอเมริกาและบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วย

ตอนนี้ มาดูคุณสมบัติเด่นหลายประการของแพลตฟอร์มนี้โดยละเอียดยิ่งขึ้นในรีวิวของ Shopify ด้านล่าง

---

Shopify ใช้งานง่าย

เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มโฮสต์อื่น ๆ Shopify ค่อนข้างใช้งานง่าย มันถูกออกแบบมาสำหรับทุกคน ตั้งแต่ผู้เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซไปจนถึงผู้เริ่มต้นทั้งหมด คุณไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการสร้างเว็บไซต์เพื่อให้ร้านค้าออนไลน์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ด้วยความช่วยเหลือจาก Shopify

แม้ว่าแพลตฟอร์มโอเพนซอร์สต้องใช้ขั้นตอนมากมาย เช่น การซื้อโฮสต์และการอัปโหลดซอร์สโค้ดไปยังเซิร์ฟเวอร์ของคุณ Shopify ขจัดความยุ่งยากในการสร้างเว็บไซต์ ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าคุณสามารถเปิดร้านและดำเนินการได้ในเวลาไม่กี่นาที

วิดีโอแนะนำการใช้งาน Shopify นี้สามารถช่วยให้คุณตั้งค่าร้านค้า Shopify ของคุณได้อย่างรวดเร็ว:

คุณสามารถสร้างร้านค้า Shopify ได้ง่ายๆ ด้วยขั้นตอนง่ายๆ หลังจากกรอกที่อยู่อีเมล รหัสผ่านสำหรับบัญชีของคุณ และชื่อร้านค้าเพื่อเริ่มต้น Shopify จะนำคุณไปสู่การกำหนดค่าเริ่มต้น

แทบไม่มีประโยชน์เลยที่คุณต้องใช้เวลาดูรอบๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ หลังจากที่คุณสร้างบัญชีแล้ว Shopify จะแนะนำคุณตลอดขั้นตอนสำคัญเพื่อทำให้ร้านค้าของคุณทำงานได้อย่างสมบูรณ์

หน้าหลักจะแสดงทางลัดในการเพิ่มสินค้าชิ้นแรก ปรับแต่งธีมของคุณ และเพิ่มโดเมนใหม่ หรือโอนโดเมน Shopify หากคุณมีอยู่แล้ว

จากภาพ แดชบอร์ดตรงไปตรงมากับหมวดหมู่ที่มีส่วนย่อยที่เกี่ยวข้องกันเพื่อให้ง่ายต่อการนำทาง คุณสามารถนำเข้าสินค้าไปยัง Shopify ได้อย่างง่ายดาย เพิ่มการตกแต่ง และร้านค้าของคุณจะพร้อมใช้งาน

ก่อนที่จะไปยังส่วนถัดไปของรีวิว Shopify เรามาฟังว่าลูกค้าของ LitExtension คิดอย่างไรเกี่ยวกับ Shopify:

โดยรวมแล้ว Shopify เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม มันทำทุกอย่างได้ดี และแม้ว่าบางครั้งแบ็กเอนด์อาจทำให้สับสนได้ แต่ผลิตภัณฑ์ฟรอนต์เอนด์ที่ส่งไปยังผู้ใช้นั้นสวยงามและมีประสิทธิภาพ ฉันขอแนะนำ Shopify หากมีคนคิดที่จะเปิดตัวร้านค้าออนไลน์ ง่ายถ้าคุณต้องการให้เป็น และซับซ้อนถ้าคุณต้องการขยายเพื่อตอบสนองสถานะอีคอมเมิร์ซออนไลน์ขนาดใหญ่

Henry Smiths

บทวิจารณ์ Shopify อื่นจาก Taylor Tabb:

ฉันอยากจะแนะนำผลิตภัณฑ์นี้ให้กับคนอื่นหากคุณเพิ่งเริ่มต้นการเดินทางกับอีคอมเมิร์ซ และคุณไม่ต้องการเสียเวลามากในการเปิดตัวหรือพัฒนาเว็บไซต์
ฉันชอบส่วนต่อประสานกับผู้ใช้มากเพราะไม่ซับซ้อนในการอ่านหรือทบทวน และไม่ต้องใช้เวลาจากบุคคลที่เพิ่งเริ่มเขียนหรือพัฒนาเว็บไซต์ของตนเอง

---

ราคา Shopify

คุณสามารถลองใช้ Shopify ได้โดยไม่ต้องเสียเงินก่อนตัดสินใจให้รายละเอียดการชำระเงิน เช่น ข้อมูลบัตรเครดิตของคุณ

แพลตฟอร์มนี้ให้ ทดลองใช้งานฟรี 14 วัน พร้อมการเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่าคุณจะให้รายละเอียดบัตรเครดิตของคุณในช่วงเวลานี้ Shopify ให้คุณยกเลิกได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องเรียกเก็บเงินตราบเท่าที่คุณดำเนินการภายใน 2 สัปดาห์แรก

เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ แผนราคาของ Shopify ดูเหมือนจะค่อนข้างแพง อย่างไรก็ตาม จะคุ้มทุนโดยสิ้นเชิงเมื่อธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมีศักยภาพด้วยความช่วยเหลือจากเครื่องมืออันทรงพลังจาก Shopify

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ SaaS นำเสนอ 3 แผนพร้อมค่าใช้จ่ายรายเดือน

• ขั้นแรก มาดูที่แผน Basic Shopify ด้วย $29 ต่อเดือน คุณจะได้รับฟังก์ชันอีคอมเมิร์ซพื้นฐานทั้งหมด หากคุณเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจหรือต้องการสร้างหน้าร้านออนไลน์ที่เรียบง่ายสำหรับหน้าร้านที่มีอยู่จริงของคุณ นี่เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
• แผนถัดไป เรียกง่ายๆ ว่า “Shopify” มีราคา $79 และมีทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับธุรกิจที่กำลังเติบโต การจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวจะทำให้คุณมีคุณลักษณะเพิ่มเติมที่จำเป็นสำหรับร้านค้าของคุณในการเข้าถึงศักยภาพ
• Shopify ขั้นสูงมีค่าใช้จ่าย 299 เหรียญต่อเดือนและมาพร้อมกับคุณสมบัติขั้นสูงสุด ธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดใหญ่สามารถเติบโตได้มากขึ้น และแผนนี้ทำให้กระบวนการนี้เป็นไปได้มากขึ้น

นอกเหนือจากการกำหนดราคารายเดือนแล้ว Shopify ยังเรียกเก็บอัตราบัตรเครดิตที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละแผนเมื่อใช้ Shopify Payments หากคุณเลือก Shopify Basic แพลตฟอร์มจะเรียกเก็บเงิน $2.9 + 30 เซ็นต์ต่อธุรกรรม ค่าธรรมเนียมลดลงเหลือ 2.6 ดอลลาร์ + 30 เซ็นต์เมื่อใช้แผน Shopify และ 2.4 ดอลลาร์ + 30 เซ็นต์เมื่อใช้ Advanced Shopify

หากคุณตัดสินใจที่จะใช้ผู้ให้บริการชำระเงินรายอื่นนอกเหนือจาก Shopify Payments เอง ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมต่อธุรกรรมจะเป็น 2.0%, 1.0% และ 0.5% สำหรับ Shopify Basic, Shopify และ Advanced Shopify ตามลำดับ

หากคุณมีแผนระยะยาวสำหรับธุรกิจของคุณ ให้พิจารณาค่าธรรมเนียมรายปีของ Shopify การสมัครแผนรายปีช่วยให้คุณประหยัด 10% และจ่ายครั้งเดียวเป็นเวลา 2 ปี ประหยัด 20%

นอกจากแผนเหล่านี้แล้ว Shopify ยังมีเวอร์ชันที่เหมาะสำหรับธุรกิจระดับองค์กรชื่อ Shopify Plus

สงสัยว่าความแตกต่างระหว่าง Shopify กับ Shopify Plus คืออะไร? ด้านล่างนี้คือการเปรียบเทียบอย่างละเอียดระหว่างทั้งสอง

---

Shopify Themes

อัตราการแปลงยังขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ของร้านค้าของคุณด้วย การสร้างธีม Shopify แบบกำหนดเองที่ดีจะทำให้ลูกค้ามีโอกาสกลับมาซื้อเพิ่มและสร้างรายได้มากขึ้น

นี่คือข้อดีและข้อเสียของธีม Shopify

ข้อดี	ข้อเสีย
ดีไซน์ล้ำสมัยและล้ำสมัย	มีธีมฟรีให้เลือกเพียง 10 ธีมเท่านั้น
สร้างขึ้นอย่างมืออาชีพและตอบสนองมือถือ	ค่าใช้จ่ายมีตั้งแต่ 140 ถึง 180 เหรียญซึ่งค่อนข้างแพง
ออกแบบมาให้เหมาะกับสไตล์ของคุณและคุณสมบัติของร้านค้าอีคอมเมิร์ซของคุณอย่างแน่นอน → พวกเขาจะฟอร์แมตใหม่เพื่อให้เหมาะกับหน้าจอมือถือและแท็บเล็ต	ไม่มีหลายภาษาในธีมทั้งหมด
เต็มไปด้วยคุณสมบัติและคุณสามารถเลือกสไตล์ต่างๆ

โดยทั่วไปแล้ว ธีมของ Shopify ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย สง่างาม และน่าดึงดูด พวกเขาทำโดยนักออกแบบมืออาชีพ ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฟังก์ชันและการใช้งานของแต่ละอัน

หากคุณไม่แน่ใจว่าการลงทุนประมาณ 180 ดอลลาร์ในธีมพรีเมียมเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่ คุณสามารถรับธีมฟรีเพื่อดูว่ามันใช้ได้ผลสำหรับร้านค้าของคุณอย่างไร แน่นอนว่าพวกเขาจะด้อยกว่าคนที่จ่ายเงินในแง่ของการใช้งานและความน่าดึงดูดใจ

อย่างไรก็ตาม เรายังแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ธีมแบบชำระเงินที่ออกแบบมาอย่างสวยงามในภายหลังเมื่อธุรกิจของคุณสร้างรายได้ในปริมาณที่เหมาะสม ราคาอาจสูงขึ้นเล็กน้อยสำหรับธุรกิจใหม่ แต่ไม่แพงนักเมื่อคุณพิจารณาว่าเป็นการชำระเงินแบบครั้งเดียว นอกจากนี้ ธีมแบบชำระเงินยังได้รับการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ UI-UX ดังนั้น คุณจึงคาดหวังได้ว่าจะได้รับคุณภาพที่ยอดเยี่ยมรวมถึงเทมเพลตที่ปรับแต่งได้สูงสำหรับร้านค้าของคุณ

นอกจากราคาแล้ว คุณควรพิจารณาสไตล์ตามสิ่งที่คุณขายและวิธีที่คุณต้องการให้ลูกค้ารู้สึกเมื่อเห็นร้านค้าของคุณ ในหน้าธีมของ Shopify คุณสามารถเรียกดูตามอุตสาหกรรมหรือคอลเลกชั่นได้ อย่าลังเลที่จะใช้เวลาตัดสินใจสิ่งที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด

โปรดทราบว่าธีมทั้งหมดสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระด้วยโค้ด Liquid คุณสามารถเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับธีมต่างๆ ได้ด้วยการเปลี่ยนสี แบบอักษร ปุ่มโซเชียลมีเดีย และอื่นๆ เป็นอีกครั้งที่ความง่ายในการใช้งานของ Shopify ทำให้สิ่งต่างๆ สะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากคุณสามารถเพิ่ม ลบ หรือย้ายส่วนต่างๆ ได้ด้วยตัวเองเพียงไม่กี่คลิก

---

เครื่องมืออีคอมเมิร์ซของ Shopify และคุณสมบัติการขาย

#1 การรายงานและการวิเคราะห์ของ Shopify

Shopify มีเครื่องมือการรายงานที่หลากหลาย ซึ่งสามารถอัพเกรดได้ด้วยแผนที่สูงขึ้น

Basic Shopify ให้ภาพรวมแบบเรียลไทม์ของปัจจัยสำคัญ เช่น รายได้ ความชอบของผู้บริโภค และอื่นๆ การอัปเกรดเพิ่มเติมประกอบด้วยรายงานการขายและลูกค้าโดยละเอียด และ Advanced Shopify หรือ Shopify Plus จะให้การวิเคราะห์เชิงลึกด้วยความช่วยเหลือของตัวกรอง

คุณสามารถได้รับประโยชน์มากมายจากการผสานรวม Google Analytics การเชื่อมต่อร้านค้าของคุณกับบัญชี Google Analytics ส่งผลให้เกิดการผสมผสานที่เพียงพอและยืดหยุ่นระหว่างทั้งสอง ซึ่งคุณอาจพบเกือบทุกอย่างที่คุณต้องการ

ในปี 2021 Shopify ได้ปรับปรุงรายงานและการวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องด้วยการอัปเดตใหม่ในเซสชันร้านค้าและ KPI อัตราการแปลงในการวิเคราะห์ภาพรวม

ฟังก์ชันใหม่นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อรองรับธุรกิจหลายช่องทาง ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับร้านค้าทั้งหมดของคุณในที่เดียว ดังนั้น คุณจึงสามารถเฝ้าติดตามสถานะธุรกิจของคุณได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งมองเห็นภาพรวมของ "สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น" ในทุกช่องทางของคุณ

#2 Shopify การจัดการสินค้าคงคลัง

Shopify ให้คุณเพิ่มสินค้าหรือนำเข้าสินค้าด้วยตนเองโดยใช้ไฟล์ CSV นอกจากนี้ยังสามารถนำเข้าลูกค้า คำสั่งซื้อ และข้อมูลอื่นๆ ได้อีกด้วย

การเพิ่มผลิตภัณฑ์ทำได้ง่ายมาก การคลิกที่ "ผลิตภัณฑ์" ในแดชบอร์ดหลักจะนำคุณไปยังหน้าที่คุณสามารถจัดการผลิตภัณฑ์ของคุณได้ หากคุณยังไม่มี Shopify จะแสดงปุ่มขนาดใหญ่ตรงกลางเพื่อเพิ่มปุ่ม

คุณสามารถกรอกข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของคุณ รวมถึงชื่อ คำอธิบาย รูปภาพเด่น วิดีโอ และอื่นๆ SKU และคุณสมบัติการติดตามปริมาณช่วยจัดการสินค้าคงคลังของคุณได้อย่างง่ายดายและทำเครื่องหมายสินค้าที่หมดสต็อกโดยอัตโนมัติ

คุณยังสามารถเพิ่มรูปแบบต่างๆ สำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณและกำหนดราคาที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละรายการได้ที่นี่ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าคุณสามารถเพิ่มตัวแปรได้ 3 แบบเท่านั้น (ขนาด สี วัสดุ ฯลฯ)

#3 หลายช่องทาง & Omnichannel

หากคุณกำลังมองหาโซลูชันอีคอมเมิร์ซที่ยอดเยี่ยมที่คุณสามารถใช้ประโยชน์จากหลายช่องทางและทุกช่องทางเพื่อเพิ่มยอดขาย Shopify เป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับคุณอย่างแน่นอน Shopify มอบช่องทางการขายทั้งหมด 8 ช่องทางให้ผู้ค้ารวมถึง Facebook, Instagram, Amazon... โดยการเชื่อมต่อแต่ละช่องทางการขายกับ Shopify คุณสามารถตรวจสอบสินค้า คำสั่งซื้อ และลูกค้าทั้งหมดของคุณได้อย่างง่ายดายในที่เดียว

หากสิ่งที่คุณต้องการไม่อยู่ในรายการ คุณสามารถค้นหาการผสานการทำงานจากบริษัทภายนอกได้ตลอดเวลาใน Shopify App Store เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วง ตอนนี้ มาเจาะลึกในแต่ละช่องทางการขายกัน

1. การค้าเพื่อสังคม

โซเชียลคอมเมิร์ซใช้เว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น Facebook, Instagram, Messenger… เป็นพาหนะในการโปรโมตและขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ

จากข้อมูลของ Forbes ผู้บริโภค 30% บอกว่าพวกเขาจะซื้อโซเชียลมีเดีย ดังนั้นช่องทางการขายนี้จึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงลูกค้าและกระตุ้นยอดขายของคุณ คุณสามารถเชื่อมต่อ Shopify กับ Facebook, Instagram หรือแม้แต่ Messenger

ช่องทางการขาย	การสนับสนุนจาก Shopify
Facebook และ Instagram	– ซิงค์สินค้าของคุณกับแคตตาล็อกบน Facebook และ Facebook Shop – ให้คุณสร้างและจัดการแคมเปญการตลาดและโฆษณาบน Shopify – ให้คุณเรียกใช้การกำหนดเป้าหมายโฆษณาใหม่
ผู้สื่อสาร	– ให้ลูกค้าของคุณซื้อสินค้าโดยตรงจากการสนทนา – เพิ่มปุ่ม “ติดต่อเรา” ในร้านค้าของคุณ – นำความสามารถในการปรับแต่งข้อความอัตโนมัติของคุณ

2. Shopify POS

จุดขาย (POS) คือสถานที่จริงที่ลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการ ธุรกรรม POS อาจเกิดขึ้นด้วยตนเองหรือทางออนไลน์ โดยมีใบเสร็จที่สร้างเป็นสิ่งพิมพ์หรือทางอิเล็กทรอนิกส์

Shopify POS คือแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์ iOS และ Android ที่คุณสามารถใช้สำหรับธุรกรรมในร้านค้าทั่วไป ตลาด หรือการตั้งค่าป๊อปอัป ค้นหาผลิตภัณฑ์ ดำเนินการตามคำสั่ง รับชำระเงิน รูดบัตรเครดิต ผลิตใบเสร็จ และควบคุมทั้งหมดจาก iPad หรืออุปกรณ์มือถือของคุณ

ปัจจุบันมีแผนการสมัครใช้งาน Shopify POS 2 แบบให้คุณเลือก: Shopify POS Lite และ Shopify POS Pro พร้อมคุณสมบัติที่น่าทึ่งมากมาย

3. การรวมตลาดกลาง

นอกจากโซเชียลมีเดียและ POS แล้ว Shopify ยังช่วยให้ผู้ค้าสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและตลาดกลางที่ดีที่สุดบางแห่งทั่วโลก เช่น Amazon หรือ Handshake อย่างเป็นทางการ (มีจำหน่ายสำหรับสหรัฐอเมริกา) นอกจากนี้ หากคุณเลือกแผน Shopify Plus คุณสามารถใช้ประโยชน์จากช่องทางการขายส่งที่แยกจากกันได้เช่นกัน

Shopify Amazon Integration

• เชื่อมโยง Shopify กับรายการสินค้าใน Amazon ที่มีอยู่ของคุณ หรือสร้างรายการใหม่บนร้านค้า Amazon ของคุณ

• เชื่อมโยงรายการสินค้าใน Amazon ที่มีอยู่กับ Shopify admin

• จัดการทุกอย่างจากแผง Shopify Admin ของคุณ

ช่องทางการขายส่ง (ใช้ได้กับ Shopify Plus เท่านั้น)

• สร้างหน้าร้านที่มีการป้องกันด้วยรหัสผ่านแยกต่างหากสำหรับค้าส่ง

• เพิ่มสินค้าขายส่งเท่านั้นที่มีในร้านค้าส่งของคุณเท่านั้น

• จัดการทุกอย่างจากแผง Shopify Admin ของคุณ

โปรดทราบว่าคุณยังคงสามารถผสานรวมร้านค้า Shopify ของคุณกับตลาดอื่นๆ ได้โดยใช้ส่วนขยายหรือนักพัฒนาจากภายนอก

#4 Shopify การชำระเงินและการจัดส่ง

Shopify Payment คืออะไร?

Shopify เสนอ ตัวประมวลผลการชำระเงินมากกว่า 100 ตัว (อาจมากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ) รวมถึงชื่อที่ได้รับความนิยมสูงสุด เช่น Stripe, 2Checkout, PayPal หรือ Authorize

นี่เป็นข่าวดี ยกเว้นกรณีที่ Shopify จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม (2.5% ถึง 0.5% ขึ้นอยู่กับแผนของคุณ) เว้นแต่คุณจะใช้ช่องทางการชำระเงินของตัวเอง – Shopify Payments

ตัวเลือกการรับชำระเงินในหลายสกุลเงินมีให้เฉพาะกับ Shopify Payments เท่านั้น ระบบจะแปลงราคาโดยอัตโนมัติตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน คุณควรพิจารณาตัวเลือกนี้อย่างแน่นอนหากตลาดเป้าหมายของคุณขยายออกไปในต่างประเทศ และที่ตั้งของคุณอยู่ในรายการที่ Shopify Payments พร้อมให้บริการ

นอกจากนี้ การเลือกใช้ Shopify Payments ยังเปิดประตูสำหรับฟังก์ชันการชำระเงินแบบเร่งด่วน Shop Pay หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติในตัวนี้ โปรดดูเพิ่มเติมที่รีวิว Shop Pay ของเรา

จัดส่งด้วย Shopify

Shopify มีความยืดหยุ่นสูงในการจัดส่ง คุณสามารถกำหนดค่าอัตราค่าจัดส่งของคุณ (จัดส่งฟรี อัตราคงที่ ขึ้นอยู่กับภูมิภาค ฯลฯ)

ด้วยแผน Advanced Shopify คุณยังสามารถปลดล็อกอัตราค่าจัดส่งที่คำนวณโดยบุคคลที่สามได้ ดังนั้นคุณจึงสามารถแสดงราคาจัดส่งปัจจุบันแก่ลูกค้าที่จุดชำระเงินได้

#5 Shopify App Store

ด้วยแอปมากกว่า 6000+ แอป Shopify จึงเป็นแพลตฟอร์มที่มีร้านแอปที่ใหญ่ที่สุดในตลาด โดยพื้นฐานแล้ว คุณสามารถหาเกือบทุกอย่างที่ต้องการได้ที่นั่น

แม้ว่า Shopify ได้รวมฟังก์ชันการทำงานส่วนใหญ่ไว้เรียบร้อยแล้วเพื่อตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐาน แต่ App Store ก็ได้ทำลายขีดจำกัดทั้งหมดสำหรับสิ่งที่คุณสร้างได้ในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ

ทีมงาน Shopify ทำงานได้ดีในการช่วยคุณสำรวจร้านค้าขนาดใหญ่โดยให้คุณเรียกดูตามหมวดหมู่หรือคอลเลกชั่น พวกเขามีความหลงใหลมากพอที่จะสร้างส่วน "การเลือกพนักงาน" ที่มีแอปที่ทีมเลือกเอง

หนึ่งในคุณสมบัติที่นิยมใช้คือ dropshipping ซึ่งไม่ได้รวมไว้โดยค่าเริ่มต้น ดังนั้น คุณจะต้องได้รับความช่วยเหลือจาก App Store หากคุณต้องการคุณสมบัตินี้ โชคดีที่มีแอพมากมายสำหรับสิ่งนี้ และ Obelo เป็นหนึ่งในคำแนะนำ

นอกจากนั้น คุณยังสามารถเรียกดู App Store เพื่อหาเครื่องมือทางการตลาด การจัดการคำสั่งซื้อและสินค้าคงคลัง เครื่องมือออกแบบร้านค้า และอื่นๆ อีกมากมาย แอพบางตัวให้คุณเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อโปรโมตธุรกิจของคุณต่อไปและเพิ่มปริมาณการเข้าชมไซต์ของคุณ

หนึ่งในรายการโปรดของเราคือ Recart ที่คุณสามารถสร้างรายการ Messenger และ SMS ได้ และแบ่งกลุ่มตามวิธีที่คุณต้องการเพื่อส่งโฟลว์เป้าหมายและแคมเปญที่มีการแปลงสูง”

อย่าลืมดูคำแนะนำของเราเกี่ยวกับแอป Shopify ที่ดีที่สุดเพื่อสร้างเว็บไซต์ที่ครบถ้วน

#6 Shopify ความเป็นสากล

Shopify เป็นตัวเลือกที่ดี หากความสำคัญของคุณคือการขายข้ามพรมแดน เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก ช่วยให้ร้านค้าของคุณสามารถเชื่อมต่อกับช่องทางการขายที่หลากหลาย เปิดใช้งานหลายภาษา หลายสกุลเงิน และการตั้งค่าภาษีตามสถานที่ เพื่อให้คุณสามารถสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นสำหรับผู้เยี่ยมชมของคุณ

1. หลายภาษา

ฟังก์ชัน Shopify Multi-languages ​​ให้คุณสร้าง URL แยกสำหรับเนื้อหาต้นฉบับของคุณด้วยภาษาอื่น

เมื่อลูกค้าไปที่ URL ที่แปลแล้ว เว็บไซต์ของคุณจะแสดงเวอร์ชันที่แปลโดยอัตโนมัติ หลังจากนั้น ลูกค้าของคุณสามารถดูสินค้า สร้างคำสั่งซื้อ ชำระเงิน และรับการแจ้งเตือนในภาษาท้องถิ่นของตนได้

จำนวนภาษาที่ใช้ได้ขึ้นอยู่กับแผน Shopify ปัจจุบันของคุณ:

– Basic Shopify, Shopify, Advanced Shopify จากนั้นคุณสามารถแปลได้ถึงห้าภาษา

– ผู้ค้า Shopify Plus คุณสามารถแปลร้านค้าของคุณเป็น 20 ภาษา

2. สกุลเงิน

Shopify รองรับการขายด้วยหลายสกุลเงิน เมื่อใช้ฟังก์ชันนี้ ลูกค้าของคุณสามารถดูราคาในร้านค้าของคุณ ชำระเงินสำหรับการสั่งซื้อที่จุดชำระเงิน และรับเงินคืนในสกุลเงินท้องถิ่นของพวกเขา

อัตราการแปลงถูกกำหนดโดยค่าเริ่มต้นตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแบบเรียลไทม์ หากคุณต้องการเปลี่ยนสกุลเงิน คุณสามารถล็อคอัตราคงที่สำหรับแต่ละสกุลเงินได้ด้วยตนเอง

หมายเหตุ: Shopify Payments รองรับการขายในหลายสกุลเงินเท่านั้น คำสั่งซื้อที่ดำเนินการโดยใช้ Paypal หรือผู้ให้บริการชำระเงินบุคคลที่สามอื่นๆ จะได้รับการประมวลผลในสกุลเงินของร้านค้าของคุณ

3. การตั้งค่าภาษี

ภาษียังเป็นอุปสรรคเมื่อคุณต้องการขายในต่างประเทศ โชคดีที่ Shopify ครอบคลุมธุรกิจของคุณ

หลายประเทศเรียกเก็บภาษีตามปลายทางของคำสั่งซื้อ ดังนั้น คุณสามารถตั้งค่าอัตราเหล่านี้ได้ด้วยตนเอง (เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งนี้ด้านล่าง)

#7 Shopify Dropshipping

แม้ว่า dropshipping จะเข้ามาใหม่ในตลาด แต่ก็กลายเป็นหนึ่งในโมเดลธุรกิจที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่างรวดเร็วในขณะนี้ ช่วยให้เจ้าของร้านค้าขายสินค้าให้กับลูกค้าผ่านซัพพลายเออร์โดยไม่ต้องถือสินค้าคงคลัง

คุณสามารถควบคุมราคาซื้อที่แสดงบนร้านค้า Shopify ของคุณในขณะที่ทำกำไรได้ด้วยการจ่ายราคาขายส่งให้กับซัพพลายเออร์

เนื่องจาก Shopify เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ทรงพลัง จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจดรอปชิปปิ้งของคุณ

#8 ภาษีการขายของ Shopify

บางครั้ง เจ้าของร้านอาจต้องเรียกเก็บภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์บางประเภทในธุรกิจออนไลน์ของตน อย่างไรก็ตาม ปัญหาอย่างหนึ่งคือกฎหมายและข้อบังคับด้านภาษีมีความยืดหยุ่น ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับประเทศและศาสนาของคุณ

Shopify จะจัดการปัญหาของคุณด้วยการคำนวณภาษีขายอัตโนมัติ คุณยังสามารถตั้งค่าการแทนที่ภาษีเพื่อจัดการกับกฎหมายและสถานการณ์ภาษีที่ไม่ซ้ำกัน

อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนี้จะไม่ช่วยคุณยื่นหรือนำส่งภาษีการขายของคุณ คุณอาจต้องจดทะเบียนธุรกิจของคุณกับหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นหรือของรัฐบาลกลางเพื่อให้พวกเขาจัดการ

ตรวจสอบภาษีการขายของ Shopify จากรายการสิ่งที่ต้องทำด้วยคำแนะนำที่เข้าใจง่ายของเรา!

---

Shopify SEO & การตลาด

ร้านค้าอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่ (ถ้าไม่ใช่ทั้งหมด) พึ่งพา SEO และการตลาดเป็นหลักในการขายสินค้า ไม่ว่าคุณจะทุ่มเทเวลาและเงินเท่าไหร่ในการพัฒนาเว็บไซต์ของคุณ การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาที่ไม่ดีและการตลาดที่ไม่เหมาะสมสามารถส่งผลเสียต่อยอดขายของคุณได้เสมอ เนื่องจากลูกค้าคือหัวใจของธุรกิจทั้งหมด

โชคดี ที่ SEO ของ Shopify ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ เพียงพอ ใช้งานง่าย และสามารถช่วยให้คุณมีอันดับที่ดีเมื่อใช้อย่างเหมาะสม เป็นอีกครั้งที่ความสะดวกในการใช้งานของ Shopify มีประโยชน์ เนื่องจากคุณสามารถเข้าถึงฟังก์ชันในตัวส่วนใหญ่ได้โดยไม่มีปัญหา

ตามที่เห็นจากรูปภาพ การเพิ่มชื่อ คำอธิบายเมตา และรูปภาพลงในเพจของคุณนั้นง่ายและตรงไปตรงมา Shopify ยังให้คุณสร้าง URL ที่กำหนดเองและการเปลี่ยนเส้นทาง 301 ทุกครั้งที่คุณเปลี่ยน URL เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด 404

ความเร็วของไซต์นั้นดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเลือกธีมที่เรียบง่ายและเบา ความเร็วในการโหลดที่รวดเร็วนั้นหาได้ไม่ยาก คุณยังสามารถจัดโครงสร้างไซต์ของคุณตามหมวดหมู่ ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ประโยชน์กับ SEO ของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้ไปยังส่วนต่างๆ ได้อย่างราบรื่นอีกด้วย

ต้องบอกว่ายังมีช่องว่างสำหรับการปรับปรุง URL บางรายการมีสตริงบังคับ ซึ่งไม่ดีสำหรับ SEO ตัวอย่างเช่น หน้าผลิตภัณฑ์มี '/products/' และโพสต์จะติดกับ '/posts/' ต่อจากชื่อโดเมนของคุณ

นอกจากนี้ ไฟล์ Robots.txt และแผนผังเว็บไซต์ไม่พร้อมสำหรับการแก้ไข ทำให้ Shopify SEO ค่อนข้างน่าหงุดหงิดหากคุณจริงจังกับการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์

สิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น นี่เป็นเพียงความไม่สะดวกเล็กๆ น้อยๆ บางส่วนที่มีมากกว่าประโยชน์มากมายที่คุณจะได้รับจาก Shopify อย่าลืมร้านแอปขนาดใหญ่ที่มีความเป็นไปได้ในการทำ SEO ไม่รู้จบ และเครื่องมืออื่นๆ ที่จะช่วยให้คุณได้รับการเข้าชมมากขึ้น ค้นพบที่นี่

#1 บล็อกของ Shopify

หากคุณต้องการเขียนบล็อกโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ข่าวดีก็คือ Shopify มีคุณสมบัติการเขียนบล็อก

อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรให้คาดหวังมากเกินไป เนื่องจาก นี่ไม่ใช่จุดสนใจหลักของแพลตฟอร์ม มันให้ฟังก์ชันพื้นฐานแก่คุณในการเขียนโพสต์เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าคุณอาจพบว่ามันขาดไปหากคุณรู้แล้วว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น Weebly หรือ Wix ทำงานอย่างไร

คุณลักษณะที่คุณอาจพลาดมากที่สุด ได้แก่ การวิเคราะห์บล็อก บุ๊กมาร์กทางสังคม หมวดหมู่ (คุณต้องติดแท็ก) หากไซต์ของคุณเน้นที่เนื้อหาที่มีอีคอมเมิร์ซโรยตัวอยู่บ้าง บางที Shopify อาจไม่เหมาะกับคุณ

ที่กล่าวว่า คุณลักษณะบล็อกของ Shopify ยังคงตอบสนองความต้องการและเป้าหมายที่เรียบง่าย

คุณสามารถเริ่มเขียนได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งแอพใดๆ การเพิ่มแท็ก การแก้ไขชื่อและคำหลักทำได้ง่ายและสะดวก นอกจากนี้ยังมีพารามิเตอร์ SEO ให้คุณปรับแต่งและเพิ่มโอกาสในการปรากฏในหน้าผลการค้นหาหน้าแรก

#2 การตลาดผ่านอีเมลของ Shopify

การตลาดทางอีเมลเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการเชื่อมต่อกับลูกค้าของคุณ Shopify มอบเครื่องมืออีเมลในตัวเพื่อโปรโมตสินค้าของคุณและแชร์การอัปเดต

ที่จริงแล้ว คุณสามารถเลือกจากเทมเพลตอีเมลต่างๆ เพื่อให้เริ่มต้นได้ง่ายโดยที่ยังคงความเป็นมืออาชีพไว้ แน่นอน อีเมลสามารถแก้ไขได้ เพื่อให้คุณสามารถเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ ทั้งหมดนี้ได้รับการประมวลผลภายในแผงการดูแลระบบของคุณ รวมถึงรายงานประสิทธิภาพของแคมเปญ

นอกจากนี้ คุณสามารถค้นหาแอปการตลาดผ่านอีเมลที่ดีที่สุดสำหรับร้านค้า Shopify ของคุณจากคอลเลกชั่นนี้ได้ที่นี่

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2020 หากคุณใช้แผน Shopify แบบชำระเงิน คุณสามารถส่ง อีเมล 2,500 ฉบับฟรีทุกเดือนตามปฏิทินด้วย Shopify Email อีเมลจะถูกนับตามจำนวนที่อยู่อีเมลที่คุณส่งไปยังอีเมลส่งเสริมการขายที่เฉพาะเจาะจง

คุณสามารถส่งอีเมลเพิ่มเติมที่เกินกว่า 2,500 อีเมลฟรีได้ในราคา $0.001 USD ต่ออีเมลเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น หากคุณส่งอีเมลเพิ่มเติม 1,000 ฉบับ จะมีค่าใช้จ่าย $1 USD

#3 Shopify การกู้คืนรถเข็นที่ถูกละทิ้ง

นี่เป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์อย่างยิ่งซึ่งถูกรวมเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับทุกแผน แทนที่จะต้องรับแอป คุณเพียงแค่ไปที่คำสั่งซื้อจากส่วน Shopify admin แล้วคลิกการชำระเงินที่ถูกละทิ้งเพื่อจัดการรถเข็นที่ถูกละทิ้ง

คุณสามารถดูกิจกรรมการชำระเงินจากการเช็คเอาต์ที่ถูกละทิ้งได้ที่นี่ Shopify บันทึกเหตุการณ์การชำระเงินทั้งหมดไว้ในประวัติของการชำระเงินที่ถูกยกเลิกในแต่ละครั้งที่ลูกค้าไม่ชำระเงินสำหรับตะกร้าสินค้า คุณสามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงินที่ไม่สำเร็จได้ที่นี่ ในกรณีที่ลูกค้าของคุณติดต่อคุณเพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับรายละเอียดการชำระเงิน

ตัวอย่างเช่น ฟีเจอร์ของ Shopify นี้ยังช่วยให้คุณทราบว่าเหตุใดรถเข็นจึงไม่มีการชำระเงินโดยดูจากความคล้ายคลึงกัน คุณยังสามารถเลือกที่จะส่งอีเมลที่มีลิงก์ชำระเงินไปยังลูกค้าของคุณโดยอัตโนมัติหรือด้วยตนเองเพื่อนำพวกเขากลับไปที่รถเข็นที่ถูกละทิ้ง

สงสัยว่ามันใช้ได้ผลกับคุณอย่างไร? Shopify ยังให้คุณประเมินประสิทธิภาพของการกู้คืนตะกร้าสินค้าด้วยรายงานทางอีเมล ไปที่ส่วนการ ตลาด จากแดชบอร์ดผู้ดูแลระบบของคุณ แล้วคุณจะสามารถดูคำสั่งซื้อที่ดำเนินการเสร็จสิ้นผ่านอีเมลเตือนความจำ

---

Shopify Security

เมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเมื่อคุณเลือกใช้โซลูชันอีคอมเมิร์ซที่โฮสต์ แทนที่จะสร้างร้านค้าด้วยแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส ดังนั้น คุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ เลย – Shopify จะดูแลงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในเบื้องหลัง

ด้วยใบรับรอง SSL สำหรับทุกไซต์ของ Shopify ข้อมูลทั้งหมดที่ถ่ายโอนระหว่างคุณและลูกค้าของคุณจะได้รับการเข้ารหัส ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือเนื่องจากข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเช่นรายละเอียดบัตรเครดิตมีความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ Shopify ยังเป็น ไปตามมาตรฐาน PCI ซึ่งหมายความว่าเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการประมวลผลรายละเอียดบัตรเครดิตและบัตรเดบิต นอกจากนี้ แพลตฟอร์มนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้ใช้เครื่องมือสร้างนโยบายคุกกี้ของ Shopify บนเว็บไซต์ของตนได้

---

ฝ่ายสนับสนุนของ Shopify

Shopify มีทีมสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันสำหรับการสนับสนุนทางโทรศัพท์ อีเมล และแชทสด นี่เป็นข้อได้เปรียบที่ยอดเยี่ยมเหนือคู่แข่งโอเพ่นซอร์ส

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ทีมสนับสนุนของ Shopify จะให้บริการที่มีคุณค่าทั้งในด้านคุณภาพของข้อมูลและเวลาในการตอบกลับ

นอกจากนั้น คุณยังเข้าถึงฟอรัมชุมชน ศูนย์ช่วยเหลือ และวิดีโอแนะนำอื่นๆ ได้อีกด้วย รูปแบบการสนับสนุนขั้นสุดท้ายคือการจ้างผู้เชี่ยวชาญของ Shopify ที่ผ่านการรับรองเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้สูงสุดและการดำเนินธุรกิจที่ราบรื่น

---

Shopify รีวิว – คำถามที่พบบ่อย

• Shopify ปลอดภัยในการซื้อหรือไม่

ใช่อย่างแน่นอน การซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่โฮสต์โดย Shopify นั้นปลอดภัยอย่างยิ่ง

• คุณสามารถทำเงินกับ Shopify ได้จริงหรือ?

In some cases, making money on Shopify doesn't even require you to sell anything at all. For instance, the Shopify affiliate marketing program lets you earn money per successful referral made from your account to the Shopify platform.

• Is Shopify a legit business?

Shopify is packed with lots of eCommerce features yet it is fairly easy to use. It is suitable for any eCommerce user regardless of their technical background. However, a downside of Shopify is the high transaction fees it charges for every purchase.

• What are the best Shopify alternatives?

Magento, BigCommerce, or PrestaShop, can be great solutions for Shopify alternatives.

• Is Shopify good for beginners?

As you can see from our Shopify review, Shopify is a dynamic all-in-one solution to host and manage an online store that doesn't take much muscle and technical expertise. Thus, it's ideal for newbies and amateur users.

---

Shopify Review – Recap

Hopefully, this Shopify review has successfully cleared all your doubts about Shopify – an eCommerce giant, an excellent alternative to other big names like BigCommerce, WooCommerce or Magento.

We suggest using Shopify to create your eCommerce store as it's a highly flexible platform with a large app store, reasonable pricing plans, and an impressive range of built-in features.

Furthermore, Shopify has great sales potential, ease of use, and satisfaction rates, making it a great option for newcomers and big sellers. According to our recent data report, our customers have been flocking to Shopify because of its outstanding features and we have also received positive feedback on this platform.

For more eCommerce tips and news, please join our Facebook Community.